Wednesday, December 2, 2020

News from the Sports Commission THAILAND











 



On December 2, 4th Floor, Meeting Room 408, Parliament Building (Kiakkai), Sen. Dr. Bunlue Prasertsopha, Chairman of the Sports Commission House of Representatives Chaired a meeting of the Sports Commission The 30th House of Representatives has a sports committee. The House of Representatives, expert advisors, attended the meeting. 




This meeting is the 30th time the report on the progress of the operation of The two sports sub-committees consists of sub-committees to monitor sports impacts due to the situation of the coronavirus outbreak 2019. The sport of boxing in 1999 by Ms.Siriphong Angkhakulkiat As the chairman of the subcommittee





Ms. Ekakan Sue Songtham, Chairperson of the Subcommittee Follow up on sports impacts Due to the situation of the coronavirus outbreak, said the subcommittee took place in the midst of the coronavirus outbreak situation, to study the impacts that have occurred in sports to take concrete action. Which has conducted 9 meetings and invited 14 relevant agencies to discuss, such as the Sports Authority of Thailand National Sports Development Fund Bancha Mek Boxing Camp And the Faculty of Sports Science Kasetsart University, etc., to study the impacts since the outbreak and announced the Emergency Decree of Public Administration in Emergency Situations 2005 to the present, study the needs and expectations of the sports sector that the government can promote during the period Urgent recovery during the months (August - December) and study the needs and expectations of the sports sector. That the public and private sectors can support during the restoration of sustainability throughout the year 2021





Consideration therefore has been considered to find ways to assist sports business operators. , Considering ways to find financial measures to assist sports entrepreneurs, to consider ways to find tax measures to assist sports business entrepreneurs, discuss issues to support and heal athletes Including guidelines for relaxation of sports activities and activities to prevent the spread of COVID 19 according to the Sports Act of Thailand 2015, especially legal issues and guidelines for setting regulations Lending under Section 9 is offered to athletes and sports personnel and disabled athletes with access to funding. There is a legal advantage in accordance with the Sports Act of Thailand B.E. 2558 (A.D. 2015).




Sen. Dr. Ekakai continued that the subcommittee had discussions and pushed forward. Sports Authority of Thailand and the National Sports Development Fund Have applied such laws. The results appear that in the 9th meeting, the meeting passed a joint resolution for the Legal Division Sports Authority of Thailand Conducted a study of laws and regulations related to establishing rules for lending money in accordance with Section 9 of the Sports Act of Thailand B.E. 2558, which SAT will make. Legal guidelines and procedures for using the National Sports Development Fund for athletes and sports personnel Have borrowed or lent money The rationale principles will be drawn up, proposed to the Governor of the SAT, and seek approval in order of steps. To have a consultation with the manager of the National Sports Development Fund to amend the regulations of the Sports Committee of Thailand. To be able to use the funds to use for athletes as much as possible.



What happened This is the process of advocating the adoption of the law. According to the function of Sports Commission House of Representatives That are in the design phase to provide a correct approach to the use of funds for the purposes of Sports Act of Thailand under Section 9 and can be considered that the use of the law will be beneficial has already begun. The subcommittee will continue to follow up to obtain a clear draft. And if successful in the future, this case will be history for the sport. That will also reduce the burden on the government to take care of the affected athletes. Assistant Professor Dr. Akkarn Finally said


S.S.Dr.Siriphong Angkhakulkiat The Chair of the Sub-Committee on the Study of the Boxing Act 1999 said that the Sub-committee for the Study of the Boxing Act 1999 had held its first meeting on July 31, 2020, until the present, totaling 13 times. The model is to consider hearing opinions from government agencies and stakeholders in the boxing sport registered to the Boxing Commission in 7 groups, consisting of boxers aged 15-17 years and boxers aged 18 years and over, Trainers, referees, boxing managers, tournament organizers, boxing stadium masters, and boxing camp leaders. Discussed problems and obstacles for government agencies, law enforcement, and camp leaders. Since the definition of boxing and the provisions of the age restriction,

a boxer must be 15 years or older to fight, even though the training of boxing starts at the age of 8 and determines to have protective equipment that Suitable for young boxers when competing in boxing to meet international standards.



Important issues were presented to separate the Boxing Sports Fund from the National Sports Development Fund, establishing a boxing adjudication committee as a central committee, revise the boxing structure in SAT and have clearly set penalties for falling boxing to ensure fairness, amendments The Boxing Act 1999 should take into account foreign boxers competing in boxing in Thailand. To get the rights and benefits Including protection from boxing matches in Thailand, reviewing the requirements for rest days after boxing. And further amendments The Boxing Act, 1999 should be organized to listen to opinions of personnel in the boxing industry thoroughly.






เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ชั้น 4 ห้องประชุม 408 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานประชุมคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 30 มี กรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง


การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 30 มีการพิจารณารายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินงานของ คณะอนุกรรมาธิการกีฬา 2 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดย ส.ส.ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ และ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 โดย ส.ส.ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เป็นประธานอนุกรรมาธิการฯ



ส.ส.ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กล่าวว่า คณะอนุฯนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 เป็นการศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นในวงการกีฬาเพื่อดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งได้ทำการประชุม 9 ครั้ง พร้อมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือรวมทั้งสิ้น 14 หน่วยงาน อาทิ การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ค่ายมวยบัญชาเมฆ และคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น ทำการศึกษาผลกระทบตั้งแต่เริ่มมีการกระบาดและประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ถึงปัจจุบัน ,ศึกษาความต้องการและความคาดหวังของภาคส่วนกีฬาที่ภาครัฐจะสามารถส่งเสริมสนับสนุนในช่วงระยะฟื้นฟูเร่งด่วนช่วงเดือน(สิงหาคม- ธันวาคม)และ ศึกษาความต้องการและความคาดหวังของภาคส่วนกีฬา ที่ภาครัฐและภาคเอกชนสามารถสนับสนุนในช่วงฟื้นฟูให้ความยั่งยืนตลอดปี 2564


การพิจารณา จึงมีการพิจารณาหาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรรกิจด้านการกีฬา ,การพิจาณาแนวทางในการหามาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจด้านการกีฬา,การพิจารณาแนวทางในการหามาตรการทางภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจด้านการกีฬา ประเด็นหารือ การช่วยเหลือและเยียวยานักกีฬา รวมถึงแนวทางการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านการกีฬาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 โดยเฉพาะประเด็นข้อกฏหมายและแนวทางการกำหนดระเบียบหลักเกณฑ์การให้กู้ยืมเงิน ให้ยืม ตามมาตรา 9 มีการเสนอให้ นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาและนักกีฬาคนพิการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน มีการใช้ประโยชน์จาก กฏหมาย ตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ส.ส.ดร.เอกการ



ส.ส.ดร.เอกการ กล่าวต่อว่า คณะอนุฯ ได้มีการอภิปรายและผลักดันให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ใช้กฏหมายดังกล่าว ผลปรากฏว่า ในการประชุมครั้งที่ 9 ที่ประชุมมีมติร่วมกันให้กองนิติการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ดำเนินการศึกษากฏหมายและระะเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการวางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้ยืมเงิน ตามมาตร 9 แห่ง พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ซึ่ง กกท. จะทำการจัดทำแนวทางและขั้นตอนทางกฏหมายในการใช้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเพื่อให้นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬา ได้กู้เงินหรือให้ยืมเงิน ซึ่งจะมีการยกร่างหลักการเหตุผล เสนอผู้ว่า กกท. และ ขออนุมัติตามลำดับตามขั้นตอน ที่จะมีการหารือกับผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเพื่อแก้ไขระเบียบคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยฯ ให้สามารถนำเงินกองทุนมาใช้กับนักกีฬาให้มากที่สุด


สิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือกระบวนการขั้นตอนการผลักดันให้เกิดการใช้กฏหมายที่ได้บัญญัติขึ้น ตามหน้าที่ของ คณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ที่อยู่ในช่วงของการออกแบบเพื่อจัดทำแนวทางที่ถูกต้องในการใช้เงินตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย ตามมาตรา 9 และถือได้ว่า การใช้กฏหมายที่จะเป็นประโยชน์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งคณะอนุฯนี้จะยังคงติดตามเพื่อให้ได้ร่างที่ชัดเจน และหากสำเร็จในอนาคต กรณีนี้ จะเป็นประวัติศาสตร์ต่อวงการกีฬา ที่ยังจะเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับรัฐบาลในการดูแลนักกีฬาที่ได้รับผลกระทบต่อไป ส.ส.ดร.เอกการ กล่าวในที่สุด


ด้าน ส.ส.ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ได้จัดประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ถึงปัจจุบันรวมจำนวน 13 ครั้ง แบ่งภาระกิจเป็น 2 รูปแบบ คือการพิจารณารับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานรัฐและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการกีฬามวยที่ขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จำนวน 7 กลุ่ม ประกอบด้วย นักมวย อายุ 15-17 ปี และนักมวยอายุ 18 ปีขึ้นไป,ผู้ฝึกสอน,ผู้ตัดสิน,ผู้จัดการมวย, ผู้จัดรายการแข่งขัน,นายสนามมวยและหัวหน้าค่ายมวย ได้อภิปรายถึงปัญหาอุปสรรคของหน่วยงานรัฐผู้บังคับใช้กฏหมายและหัวหน้าค่าย ตั้งแต่คำนิยามของคำว่า กีฬามวย และสิ่งที่บัญญัติในการจำกัดอายุนักมวยต้องมีอายุ 15 ปี ขึ้นไปถึงจะขึ้นชกได้ทั้งที่การฝึกมวยจะเริ่มตั้งแต่อายุ 8 ปี และการพิจารณากำหนดให้มีอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมให้แก่นักมวยเด็กเมื่อแข่งขันกีฬามวยให้มีมาตรฐานสากล



ประเด็นสำคัญ มีการนำเสนอให้แยกกองทุนกีฬามวยออกจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, ให้มีการตั้งคณะกรรมการผู้ติดสินกีฬามวยที่เป็นคณะกรรมการกลาง,แก้ไขโครงสร้างกีฬามวยใน กกท.และมีการกำหนดบทลงโทษกรณีล้มมวยอย่างชัดเจนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม,การบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ควรคำนึงถึงนักมวยต่างชาติที่เข้ามาแข่งขันกีฬามวยในประเทศไทย ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ รวมถึงการคุ้มครองจากการแข่งขันมวยในประเทศไทย,การพิจารณาศึกษาข้อกำหนดเกี่ยวกับวันพักหลังจากการขึ้นชกมวย และการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ควรมีการจัดเสวนรับฟังความคิดเห็นของบุคลากรในวงการมวยอย่างทั่วถึง ทั้งนักมวย หัวหน้าค่าย


-ขอบคุณ เดลินิวส์

No comments:

Post a Comment

Temp Music